⚜️ประวัติศาสตร์บางส่วนของ “กษัตริย์ล้านนาและเจ้าผู้ครองนครลำปาง นครลำพูน นครเชียงใหม่”และทายาทผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำดับที่1 (ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือและทายาท)⚜️
ในอดีตที่ผ่านมาของดินแดนล้านนาหัวเมืองฝ่ายเหนือได้มีกษัตริย์และเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)มาหลายพระองค์ในพระราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ของแต่ละนคร(จังหวัด)เช่น นครลำปาง: พระเจ้าทิพย์ช้าง พระเจ้ากาวิละ, พระเจ้าดวงทิพย์, เจ้าอุปราชหมูหล้า, เจ้าหลวงญาณรังษี, เจ้าราชวงศ์แก้วปราบเมรุ, เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต, นครลำพูน: เจ้าดาราดิเรกรัตนไพโรจน์, เจ้าอินทยงยศโชติ, พลตรีเจ้าจักรคำขจรศักดิ์, นครเชียงใหม่: พระเจ้ากาวิละ, พระเจ้าอินทวิชยานนท์, พลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ, เจ้าราชบุตรวงษ์ตะวัน ณ เชียงใหม่, เจ้านายฝ่ายเหนือในพระราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ทุกพระองค์/ทุกท่านนั้นสืบเชื้อสายมาจากพ่อเจ้าทิพย์ช้างแห่งนครลำปางซึ่งเป็นกษัตริย์ต้นราชตระกูล ณ ลำปาง, ณ ลำพูน, ณ เชียงใหม่ ในอดีตเจ้านายฝ่ายเหนือในล้านนาที่มีหน้าที่ปกครองนครนั้นจะมียศที่สำคัญที่สุดคือ”เจ้าขันห้า” ซึ่งก็คือ 1. เจ้าหลวง 2. เจ้าอุปราช 3. เจ้าราชวงศ์ 4. เจ้าบุรีรัตน์ 5. เจ้าราชบุตร เจ้าทั้ง5ตำแหน่งนี้จะเป็นผู้รักษาปกครองบ้านเมืองไม่ว่าช่วงเกิดศึกสงครามก็จะรักษาบ้านเมืองไว้จากข้าศึกหรือช่วงที่บ้านเมืองสงบสุขก็จะพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาชนได้มีอาชีพและอยู่เย็นเป็นสุข, ส่วนเจ้าที่ไม่มียศในเจ้าขันห้าจะถือว่าเป็นเจ้านายทั่วไป, การที่เจ้านายทางเหนือนั้นจะได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)ตามทำเนียมนั้นจะต้องเป็นโอรสองค์แรกของเจ้าหลวงองค์ที่พิราลัยซึ่งส่วนมากก็คือเจ้าอุปราชและเจ้าราชวงศ์ตามลำดับหรือแล้วแต่เจ้าขันห้าทุกพระองค์จะเห็นสมควร เจ้าผู้ครองนครทุกพระองค์ได้ทำคุณงามความดีมาโดยตลอดและสู้รบเพื่อแผ่นดินล้านนามาไม่ให้เป็นเมืองขึ้นของประเทศอื่นยกตัวอย่างเช่นพระเจ้ากาวิละเจ้าผู้ครองนครลำปาง(โอรสในพระเจ้าทิพย์ช้าง)ได้ยกทับมาตีเมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองที่ชาวพม่ายึดไปประมาณ200ปีและหลังจากนั้นพระเจ้ากาวิละก็ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่พระองค์ที่1, เห็นได้ว่าการที่พวกเราประชาชนทั่วไปได้มีอาชีพและธุรกิจการงานต่างๆก็เพราะพระองค์ท่าน หากไม่ได้มีพระองค์ท่านประเทศไทยภาคเหนืออาจจะเป็นของประเทศอื่นๆไปแล้ว
ความหมายของนาม(เจ้านายฝ่ายเหนือ)คือนามพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9พระราชทานให้แก่ประธานทายาทเจ้าผู้ครองนครเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9เสด็จมาที่จังหวัดเชียงใหม่
ตั้งแต่อดีตการเรียกสมาชิกในครอบครัวของเจ้าผู้ครองนคร/เจ้าหลวงในพระราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์จะมีคำว่า“เจ้า”นำหน้าชื่ออยู่เสมอซึ่งเป็นฐานันดรเช่นเจ้าทิพย์ช้าง(กษัตริย์ต้นตระกูล ณ ลำปาง) เจ้าฟ้าชายแก้ว เจ้าหลวงญาณรังษี สืบมาถึงรุ่นประธานราชตระกูลและทายาทบุตรหลานที่เป็นสายตรงเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายในปัจจุบัน(ส่วนมากจะเรียกกันตามธรรมเนียมสืบมาเพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้านายบุตรหลานในฐานะทายาทอดีตกษัตริย์ล้านนาและเจ้าผู้ครองนคร) ในการเรียก “เจ้า” นำหน้าชื่อของบุคคลในราชตระกูลนั้นจะถูกเรียกอย่างผิดๆอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบัน เพราะว่าไม่ใช่ทุกท่านที่ใช้นามสกุล ณ ลำปาง, ณ ลำพูน, ณ เชียงใหม่ จะเป็นผู้สืบสกุลลำดับที่1หรือเป็นครอบครัวบุตรหลานของผู้สืบสกุลลำดับที่1 แม้กระทั่งในเว็บข่าวบางแห่งก็เขียนคำนำหน้าชื่อผิดธรรมเนียมทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดเพราะว่าผู้ที่เขียนอาจจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับความเหมาะสมเพียงพอ, หากว่ากันตามธรรมเนียมและความเหมาะสมนั้นคำเรียกนำหน้าชื่อว่า “เจ้า” เพื่อเป็นการให้เกียรติตามธรรมเนียมที่สืบมานั้นจะต้องเป็นครอบครัวของเจ้านายบุตรหลานและทายาทของเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)พระองค์สุดท้ายและเจ้าขันห้าพระองค์สุดท้ายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนระบอบการปกครองเท่านั้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ขอยกตัวอย่างเช่นหากว่าบุคคลในปัจจุบันเป็นลูกหลานในสายของเจ้าผู้ครองนครองค์ต้นๆ(เช่นนครลำปางมีเจ้าผู้ครองนคร/เจ้าหลวง12พระองค์) หรือเป็นลูกหลานในสายของน้องหรือญาติของเจ้าผู้ครองนครพระองค์ต้นๆหรือเป็นลูกหลานของสมาชิกในตระกูลแต่ไม่ได้สืบมาจากตำแหน่งเจ้าขันห้าในสมัยเจ้าผู้ครองนครพระองค์นั้นๆ จะเห็นได้ว่าผ่านมาหลายร้อยปีและหลายชั่วอายุคนแล้วตั้งแต่เจ้าผู้ครองนครองค์ต้นๆและบุตรหลานเหล่านั้นส่วนมากก็จะแต่งงานออกไปกับบุคคลนอกราชตระกูลทำให้บุคคลนั้นๆหากนับตามศักดิ์จะห่างจากเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)และเจ้าขันห้าเป็นอย่างมากและผ่านมาเป็น10Generationขึ้นไป, สาเหตุนี้เองในวงศ์เจ้านายฝ่ายเหนือและชาวล้านนาตามธรรมเนียมจะนับทายาทบุตรหลานของเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)พระองค์สุดท้ายเป็นประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ(ครอบครัวประธานราชตระกูล)หรือเรียกว่า“ผู้นำราชตระกูล” จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ถึงความแตกต่างระหว่าง “ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือและทายาท” กับ “ลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือทั่วไป” หากว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองตามธรรมเนียมของพระราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ครอบครัวในสายของเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้าย(เจ้าหลวงองค์สุดท้าย)และทายาทบุตรหลานในเจ้าขันห้าจะมีสิทธิ์ได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครองค์ต่อไปรวมถึงขึ้นเป็นเจ้าขันห้าตามลำดับชั้นยศ
หมายเหตุ:
จากที่ทราบมาในบัตรประชาชนของทายาทพันเอกพระเพชรคีรีศรีราชสงคราม(เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ซึ่งเป็นประธานเจ้านายฝ่ายเหนือในปัจจุบันจะมีคำนำหน้าชื่อว่า”เจ้า”
⚜️ในอดีตประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ(ผู้สืบสกุลลำดับที่1)ของจังหวัดลำปาง, จังหวัดลำพูน, จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับพระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าร่วมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ในครั้งนั้นได้มีผู้นำของแต่ละราชตระกูล(ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ)ที่ได้รับพระราชทานวโรกาสให้เข้าร่วมในงานพระราชพิธีในฐานะผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำดับที่1คือ
1. ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำปางลำดับที่1 = พระเพชรคีรีศรีราชสงคราม(เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ท่านเป็นบิดาของเจ้าญาณรังษี ณ ลำปาง
2. ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ลำดับที่1 = พลตรีเจ้าราชบุตรวงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่ ท่านเป็นบิดาของคุณหญิงเจ้าพงศ์แก้ว ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่)และเป็นเจ้าตาของท่านเจ้าศักดิ์ขจร ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่)
3. ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำพูนลำดับที่1 = เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน ท่านเป็นบิดาของพลอากาศตรีเจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน
(จะเห็นได้ว่าผู้สืบสกุลลำดับที่1ของทั้งสามจังหวัดมีเพียงสามครอบครัวเท่านั้น)⚜️
หมายเหตุ:
ในราชกิจจานุเบกษาไม่ได้มีในส่วนของผู้สืบสกุลจังหวัดเชียงราย
บ่อยครั้งที่มีอยู่คำพูดหนึ่งที่อาจจะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดได้, หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า“สายตรง” ซึ่งมีการใช้คำนี้และมีการทำให้ผู้ที่รับฟังเข้าใจผิดในประวัติศาสตร์อยู่บ่อยครั้ง, ในการที่จะได้เป็นสายตรงของเจ้าผู้ครองนครนั้นตามธรรมเนียมล้านนาที่สืบกันมาตั้งแต่อดีตจะต้องเป็นลูกหลานเหลนสืบไปของเจ้าขันห้าทั้งห้าพระองค์ซึ่งจะต้องเป็นพระองค์สุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนระบอบการปกครองเท่านั้นและรวมถึงต้องเป็นสมาชิกในครอบครัวของประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ(ครอบครัวประธานราชตระกูลในปัจจุบัน)จึงถึงจะเรียกได้ว่าเป็นสายตรงของครอบครัวเจ้าผู้ครองนครผู้สืบสายสกุลลำดับที่1, ยกตัวอย่างเช่นหากประธานราชตระกูลมีบุตรธิดาหรือไม่มีก็ตามท่านที่เป็นประธานราชตระกูลรวมถึงพี่น้องบุตรหลานของประธานราชตระกูลในปัจจุบันก็คือ“ครอบครัวประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ”
***ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ/ครอบครัวประธานราชตระกูลในปัจจุบัน/ผู้สืบสายสกุลลำดับที่1นั้นส่วนมากจะมีเจ้าปู่เป็นเจ้าผู้ครองนครพระองค์สุดท้าย(เจ้าหลวง)และหรือมีเจ้าปู่/เจ้าตามียศเป็นเจ้าราชวงศ์/เจ้าราชบุตรซึ่งทั้งสามตำแหน่งนี้อยู่ในเจ้าขันห้าที่ได้รับแต่งตั้งมา, ยกตัวอย่างประธานเจ้านายฝ่ายเหนือของทั้งสามจังหวัดเช่น คุณหญิงเจ้าพงศ์แก้ว ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่) ท่านเจ้าศักดิ์ขจร ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่), ท่านเจ้าญาณรังษี ณ ลำปาง, ท่านเจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง(ไม่มีทายาท), ท่านพล.อ.ต.เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน***
เท่าที่ผู้เขียนทราบมาส่วนมากในปัจจุบันนั้นครอบครัวของประธานเจ้านายฝ่ายเหนือที่เป็นสายตรงในเจ้าผู้ครองนครพระองค์สุดท้ายและเป็นครอบครัวทายาทบุตรหลานของผู้สืบสายสกุลลำดับที่1จะไม่ค่อยออกงานต่างๆมากมายแต่จะช่วยเหลือประชาชนและมูลนิธิต่างๆอยู่เป็นประจำโดยไม่ประสงค์ออกนาม, จากที่ได้เห็นมาในปัจจุบันมีหลายมูลนิธิและ/หรือกลุ่มต่างๆที่จัดตั้งขึ้นมาแต่ส่วนมากแล้วก็จะไม่ใช่มูลนิธิหรือกลุ่มที่ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือและครอบครัวจัดตั้งขึ้นหรือเป็นประธานในมูลนิธิหรือกลุ่มนั้นๆ, บ่อยครั้งที่ประชาชนคนรุ่นใหม่มักจะเข้าใจผิดว่าการที่บุคคลใดที่เป็นประธานมูลนิธิหรือประธานกลุ่มต่างๆในปัจจุบันก็คงจะต้องเป็นผู้สืบราชตระกูลลำดับที่1ซึ่งความจริงแล้วส่วนมากเท่าที่ผู้เขียนได้เห็นมาคือไม่ใช่ การที่บุคคลใดเป็นประธานมูลนิธิหรือประธานกลุ่มต่างๆไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้สืบสกุลลำดับที่1ของราชตระกูลนั้นๆเพราะตามกฎหมายบุคคลใดก็ได้สามารถจดทะเบียนมูลนิธิหรือตั่งกลุ่มขึ้นมาเองได้, ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้สืบสกุลสายตรงของเจ้าผู้ครองนครพระองค์สุดท้ายหรือที่เรียกกันว่า “ครอบครัวประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ” จะมีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินของคุ้มในเจ้าหลวงองค์สุดท้ายรวมถึงคุ้มของผู้นำราชตระกูลในปัจจุบันที่สืบมาจากเจ้าหลวงพระองค์สุดท้ายก็จะมีชื่อเจ้านายบุตรหลานที่เป็นเจ้าของที่ดินอยู่ซึ่งก็คือครอบครัวเจ้านายบุตรหลานสายตรงของเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้าย/ประธานราชตระกูล ยกตัวอย่างเช่นคุ้มของพลตรีเจ้าราชบุตรวงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่(จังหวัดเชียงใหม่) คุ้มของพันเอกพระเพชรคีรีศรีราชสงคราม เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง ผู้สืบสายสกุลลำดับที่1ในเจ้าผู้ครองนครลำปาง(จังหวัดลำปาง)และคุ้มหลวงของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์(จังหวัดลำพูน)
หมายเหตุ:
ต้องเป็นชื่อเจ้านายบุตรหลานที่อยู่ในครอบครัวของเจ้าผู้ครองนครพระองค์สุดท้าย(เจ้าหลวงองค์สุดท้ายเท่านั้น)ไม่รวมถึงชื่อที่ประชาชนทั่วไปมาขอแบ่งซื้อที่ดินบางส่วนต่อจากเจ้านายบุตรหลานและทายาทแล้วนำชื่อไปพิมพ์ไว้ในโฉนดที่ดิน
ในปัจจุบันนั้นจะเห็นได้ว่ามีหลายบุคคลที่นามสกุล ณ เชียงใหม่, ณ ลำปาง, ณ ลำพูน อยู่เป็นจำนวนมาก, จากที่เคยศึกษามาหนึ่งในสาเหตุก็เพราะว่าเจ้าหลวงและเจ้าขันห้าบางพระองค์ได้ให้ครอบครัวของผู้รับใช้ในคุ้ม(วัง)ของพระองค์ท่านใช้นามสกุลตามท่านเพื่อที่ว่าในสมัยก่อนคนต่างเมืองจะได้ทราบว่าเป็นคนของพระองค์ท่านจึงทำให้บุคคลเหล่านั้นที่ได้นามสกุลไปใช้ต่อมาได้มีลูกมีหลานในภายหลังจึงมีคนใช้นามสกุลทั้งสามนี้เป็นอย่างมาก
แต่ในปัจจุบันถ้าหากจะกล่าวถึงครอบครัวของผู้สืบราชตระกูลลำดับที่1/ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือ/คณะครอบครัวผู้นำราชตระกูลและทายาทของเจ้านายฝ่ายเหนือที่สืบต่อมาจากเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายตามทำเนียมสายตรงในปัจจุบันนั้นจะมีอยู่3สาย/3ครอบครัวดังนี้(นอกจากนี้จะไม่ใช่สายของประธานเจ้านายฝ่ายเหนือและไม่ใช่ครอบครัวของเจ้านายบุตรหลานผู้สืบสายสกุลราชตระกูลลำดับที่1ในปัจจุบัน) ถ้าหากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้ง3ครอบครัวนี้ตามธรรมเนียมในพระราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์จะมีสิทธิ์ได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)และเจ้าขันห้าตามลำดับต่อจากเจ้าผู้ครองนครองค์ก่อน
หมายเหตุ
-บางท่านอาจจะมีพี่น้องแต่ขอกล่าวโดยย่อเฉพาะท่านที่ได้ทำคุณงามความดีเพื่อสังคมและเป็นที่รู้จักในวงสังคม
-เจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)จะมีแม่เจ้า(ภรรยาเอก)1ท่านและมีหม่อมเป็นภรรยารอง, ครอบครัวผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำดับ1นั้นตามธรรมเนียมจะนับบุตรหลานเหลนสืบไปจากแม่เจ้า(ภรรยาเอก)ของเจ้าผู้ครองนครพระองค์สุดท้ายเท่านั้น
ครอบครัวประธานเจ้านายฝ่ายเหนือในปัจจุบันผู้สืบราชตระกูลลำดับที่1ต่อมาจากเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)พระองค์สุดท้าย
จังหวัดเชียงใหม่:
⚜️พลตรีเจ้าราชบุตรวงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่ พระองค์ท่านเป็นโอรสในชายา(ภรรยาองค์แรกที่มียศเป็น”ชายา”หรือ“แม่เจ้า”)ของพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่พระองค์สุดท้ายสืบต่อมาถึงบุตรตรีของท่านคือคุณหญิงเจ้าพงษ์แก้ว ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่) ราชธิดาในพลตรีเจ้าราชบุตรวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่(โอรสพระองค์ที่1กับชายาองค์แรกของเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่) คุณหญิงเจ้าพงษ์แก้วเป็นหลานสายตรงของเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่กับแม่เจ้าจามรีวงศ์ชายาองค์แรก(ภริยาเอกของเจ้าหลวง)และเป็นอดีตผู้นำของเจ้านายฝ่ายเหนือเชียงใหม่เพราะท่านเป็นบุตรตรีของโอรสองค์โตในเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย, สืบต่อมาถึงท่านเจ้าศักดิ์ขจร ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่) ท่านเป็นราชบุตรของเจ้าพัฒนา ณ ลำพูน(โอรสของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูนพระองค์สุดท้าย) กับ คุณหญิงเจ้าพงศ์แก้ว ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่), เจ้าศักดิ์ขจรท่านเป็นหลานตาสายตรงของพลตรีเจ้าราชบุตรวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่ และเป็นเหลนสายตรงของเจ้าแก้วนวรัฐ(เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่)กับแม่เจ้าจามรีวงศ์ (ภริยาเอกองค์ที่1ของเจ้าหลวง), เจ้าศักดิ์ขจร ณ ลำพูน(ณ เชียงใหม่)มีทั้งบิดาและมารดาที่มีเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครลำดับที่1(ในปัจจุบันมีไม่มากที่เจ้านายฝ่ายเหนือจะมีทั้งบิดาและมารดาที่มีเชื้อสายเจ้าหลวงพระองค์สุดท้ายทั้งคู่ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วท่านเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือที่มีเชื้อสาย”เจ้า”มากที่สุดในปัจจุบันของจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน) และถ้าหากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองพลตรีเจ้าราชบุตรวงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่ จะได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร(เจ้าหลวง)ต่อจากพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐและสืบมาถึงทายาทบุตรหลานต่อไป
จังหวัดลำปาง:
⚜️พันเอก พระเพชรคีรีศรีราชสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ท่านเป็นโอรสองค์โตในพลตำรวจตรี เจ้าราชวงศ์แก้วปราบเมรุ ท.จ.
( เจ้าราชวงศ์แก้วปราบเมรุ ท.จ. ตามลำดับธรรมเนียมลำดับชั้นยศในเจ้าขันห้าและความถูกต้องรวมถึงธรรมเนียมล้านนาท่านคือเจ้าผู้ครองนครลำปางต่อจากเจ้าหลวงองค์ก่อน, พระองค์ท่านเป็นผู้นำของเจ้านายฝ่ายเหนือราชตระกูล “ณ ลำปาง” และเป็นผู้ก่อตั้งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5รวมถึงเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5พระองค์แรกซึ่งจะเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั่วทั้งภาคเหนือ ) เจ้าราชวงศ์แก้วปราบเมรุ ณ ลำปาง (ท.จ.) ยังบริจาคที่ดินให้เป็นที่ตั้งของกองกำกับการตำรวจในสมัยนั้น,
⚜️ต่อมาได้สืบตำแหน่งผู้นำราชตระกูล ณ ลำปางและสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่อมาจากเจ้าราชวงศ์แก้วปราบเมรุ ณ ลำปางถึงราชบุตรของท่านมีนามว่าท่านพันเอก พระเพชรคีรีศรีราชสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ท่านเป็นอดีตผู้นำราชตระกูล ณ ลำปางและเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลารวมถึงเป็นสมาชิกวุฒิสภาในสมัยนั้น, ท่านเป็นประธานเจ้านายฝ่ายเหนือลำปางลำดับที่1ที่ข้าราชการและประชาชนทั่วไปนับถือเป็นอย่างมาก, ในทุกๆปีข้าราชการต่างๆในจังหวัดลำปางและจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงประชาชนทั่วไปทั้งจังหวัดลำปางจะมาดำหัวท่านและภริยาของท่าน(เจ้าแม่จำรัสศรี ณ ลำปาง)ที่”คุ้มพระเพชรคีรีศรีราชสงคราม”ที่ตั่งอยู่บนถนนจามเทวีซึ่งในปัจจุบันที่ดินได้ตกทอดมาถึงราชบุตรของท่านรวมถึงหลานและเหลนของท่านตามกฎหมายมรดก,
⚜️พระเพชรคีรีศรีราชสงคราม(เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง)สืบตำแหน่งผู้นำราชตระกูลมาถึงราชบุตรของท่านซึ่งหนึ่งในราชบุตรของท่านเป็นท่านเดียวในครอบครัวที่เป็นDiplomatอยู่ที่สถานทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันดีซี.ประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมกับภริยาของท่านคือท่านเจ้าญาณรังษี ณ ลำปางและภริยาและในปัจจุบันสืบต่อมาถึงท่านพ่อเลี้ยงทายาทของเจ้าญาณรังษี ณ ลำปาง, เจ้าญาณรังษี ณ ลำปาง สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าดวงทิพย์ เจ้าผู้ครองนครลำปาง(เจ้าหลวง)และเจ้าหลวงวรญาณรังษี(เจ้าผู้ครองนครลำปาง)รวมถึงเจ้าหลวงพรมาภิพงษ์ธาดา(เจ้าผู้ครองนครลำปาง)และท่านยังสืบเชื้อสายทางฝั่งมารดา(เจ้าแม่จำรัสศรี ณ ลำปาง)มาจากเจ้าผู้ครองนครสงขลามีนามว่าเจ้าพระยาวิเชียรคีรี(ท่านเม่น)
จังหวัดลำพูน:
⚜️เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน(ราชบุตรของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน กับท่านหญิงหม่อมเจ้าจิตรจง ณ ลำพูน) สืบมาถึงท่านพลอากาศตรี เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูนและทายาท, ในสายครอบครัวของ พล.อ.ต. เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน ท่านสืบเชื้อสายจากฝั่งมารดามากจากราชสกุล”จักรพันธุ์” ซึ่งต้นราชสกุลคือ “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์” พระโสทรานุชา(น้องชาย)ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5
ในปัจจุบันตามธรรมเนียมล้านนาทุกวันปีใหม่ไทย(ปีใหม่เมือง)ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ทหาร ตำรวจ บริษัทเอกชนต่างๆและประชาชนทั่วไปจะเขาไปดำหัวประธานเจ้านายฝ่ายเหนือที่คุ้มของท่านเป็นประจำทุกปีเหมือนกับในอดีตที่จะเข้าไปดำหัวท่านพระเพชรคีรีศรีราชสงคราม(เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง)ที่”คุ้มเจ้าพ่อพระเพชร”
ประธานเจ้านายฝ่ายเหนือและทายาททุกท่านในปัจจุบันก็คงทำหน้าที่อนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนาและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
คำศัพท์ควรทราบของล้านนา:
เจ้าหลวง= เจ้าผู้ครองนคร
แม่เจ้า= ภรรยาเอก, ภรรยาท่านแรกของเจ้าผู้ครองนคร
เจ้าขันห้า= ลำดับชั้นยศของเจ้าผู้ครองนคร เจ้านายฝ่ายเหนือ
คุ้มหลวง= วัง/ที่พำนักของเจ้าผู้ครองนคร
คุ้ม= วังหรือที่พำนักของเจ้านายฝ่ายเหนือและทายาท (ซึ่งในปัจจุบันมีผู้คนนำไปตั้งชื่อเป็นร้านอาหารหรือโรงแรมต่างๆซึ่งเป็นการไม่เหมาะสม)
เจ้า= คำนำหน้าชื่อของเจ้าผู้ครองนคร(เช่นพระเจ้ากาวิละ พระเจ้าดวงทิพย์ เจ้าวรญาณรังษี เจ้าจักรคำขจรศักดิ์)รวมถึงทายาทบุตรหลานสายตรงและในปัจจุบันในความถูกต้องจะเรียกเพื่อให้เกียรติตามธรรมเนียมล้านนาสืบมานำหน้าชื่อของครอบครัวผู้สืบสกุลลำดับที่1เท่านั้น (ในปัจจุบันมีการเรียกกันแต่เป็นการเรียกผิดบุคคลและผิดครอบครัวเป็นอย่างมาก)
*ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูลจากWikipediaและสื่อต่างๆ